วันจันทร์ที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2558

ทฤษฎีการเรียนรู้กลุ่มพฤติกรรมนิยม(Behavioral Theories)
การเรียนรู้ตามแนวคิดกลุ่มทฤษฎีพฤติกรรมนิยม หมายถึง การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมซึ่งเป็นผลอันเนื่องมาจากประสบการที่คนเรามีปฏิสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อม หรือจากการฝึกหัดงาน ดังนั้นความรู้เกี่ยวกับกระบวนการเรียนรู้ของผู้เรียนจึงเป็นรากฐานสำคัญของการจัดการเรียนการสอนที่มีประสิทธิภาพ
ทฤษฎีการเรียนรู้การวางเงื่อนไขแบบคลาสสิก  (Classical Conditioning Theory)
1. แนวคิดของพาฟลอฟ  (Pavlov)
          การวางเงื่อนไขเป็นการสร้างความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งเร้าที่เราต้องการวางเงื่อนไข (เสียงกระดิ่งกับการตอบสนองที่ต้องการให้เกิดขึ้น (น้ำลายไหล)


           2. แนวคิดของวัตสัน (Watson)
                  วัตสันได้ทำการทดลองเกี่ยวกับการวางเงื่อนไขแบบคลาสสิกกับมนุษย์โดยศึกษาเรื่องความกลัว ตัวอย่างเช่น


           ต่อมาจิตแพทย์โวเพ ได้นำวิธีการนี้มาใช้รักษาคนไข้ที่มีความกลัวในสิ่งแปลกๆ


ทฤษฎีการวางเงื่อนไขแบบลงมือกระทำ (Operant Conditioning Theory)
          1. แนวคิดของธอร์นไดค์ 
          
การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งเร้ากับการตอบสนอง ที่เรียกว่า S-R Model อีกทั้งให้ความสำคัญต่อการเสริมแรง ที่จะทำให้เกิดการเชื่อมโยงและการตอบสนองที่เพิ่มมากขึ้น โดยเน้นการให้รางวัลมากกว่าการลงโทษ ตัวอย่างเช่น
            1. จับแมวใส่ไว้ในกล่องที่มีสลักปิดไว้ และนำอาหารใส่จานวางไว้นอกกรง
            2. แมวจะได้กินอาหารหาสามารถถอดสลักประตูออกมาได้
            3. แมวพยามหาทางออกแต่บังเอิญไปจับถูกสลักสามารถเปิดประตูออกมาได้กินอหาร
            4. จากนั้นแมวเริ่มใช้เวลาน้อยลงในการหาทางออกมากินอาหาร

ซึ่งธอร์นไดค์ เรียกการเรียนรู้แบบนี้ว่า การเรียนรู้แบบลองผิดลองถูก ไม่ใช้การใช้สติปัญญาในการแก้ปัญหา
          2. แนวคิดของสกินเนอร์
          แนวคิดของสกินเนอร์คิดว่าการเชื่อมโยงจะเกิดขึ้น ระหว่างรางวัลกับการตอบสนอง ตัวอย่างเช่น

         และสกินเนอร์ได้เสนอแนะว่า การเสริมแรงเป็นสิ่งที่สำคัญในการเรียนรู้ ซึ่งได้กล่าวว่า การกระทำไดๆ ถ้าได้รับการเสริมแรง จะมีแนวโน้มที่ทำให้เกิดการกระทำนั้นอีก ส่วนการกระทำใดที่ไม่มีการเสริมแรงย่อมมีแนวโน้มที่จะทำให้ความถี่ของการกระทำนั้น ค่อยๆหายไปและหายไปในที่สุด





1 ความคิดเห็น: